ประกันชีวิต ประกันความมั่นคงเพื่อครอบครัวในอนาคต

ประกันชีวิต ประกันความมั่นคงเพื่อครอบครัวในอนาคต

วันพฤหัสบดี

ข้อคิดการทำประกันชีวิต

การทำประกันชีวิตของคนไทยเราในปัจจุบันมีจำนวนมากขึ้น ด้วยรูปแบบของแบบประกันชีวิตที่หลากหลาย โดยจุดมุ่งหมายหลักของการซื้อประกันชีวิต เพื่อคุ้มครองชีวิต และทรัพยืสิน การทำประกันชีวิตเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยจัดการ กับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตในอนาคตของเราให้ดีขึ้น ลดภาระค่าใช้จ่ายทางการเงินที่จะเกิดขึ้นที่เราไม่อาจคาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้นมา

การทำประกันชีวิต นั้นก่อนอื่นต้องรู้จริงๆ แล้วเราสนใจและมีความต้องการจะทำหรือไม่ ไม่ควรพิจารณาจากเบี้ยประกันที่มีราคาถูกอย่างเดียว เพราะคนส่วนใหญ่มักมองแต่การจ่ายเบี้ยที่ไม่แพง แต่พอได้ผลตอบแทน หรือความคุ้มครองที่รู้สึกว่าไม่คุ้มค่า ก็จะโทษตัวแทนประกันชีวิต หรือบริษัทประกันชีวิต  และการทำประกันชีวิตก็เพื่อสร้างหลักประกันสำหรับตัวเองและคนข้างหลังว่า จะมีเงินได้เพียงพอที่จะใช้จ่ายสำหรับความจำเป็นต่างๆ  การซื้อประกันชีวิตในปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไป มีการออกแบบประกันที่เป็นการลงทุนไปในตัว ต่อไปนี้จะเป็นข้อแนะแนวทางก่อนตัดสินใจทำประกันชีวิต

สมควรทำประกันชีวิตหรือไม่
สำรวจตัวเองว่าจะมีรายได้เพียงพอที่จะใช้จ่ายสำหรับความจำเป็น เช่น ผ่อนบ้าน ค่าเล่าเรียนบุตร ค่ารักษาพยาบาลหรือค่าใช้จ่ายประจำวัน ซึ่งการทำประกันชีวิตในปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบเป็นการออมพ่วงท้ายพร้อม อนุสัญญาอื่น เช่น ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันการสูญเสียอวัยวะ ฯลฯ อาจพูดได้ว่าการทำประกันชีวิตเป็นการวางแผนทางการเงินสำหรับอนาคตที่เหมาะ สำหรับผู้ที่ยังไม่มีความมั่นคงทางหลักทรัพย์ ผู้ที่กำลังสร้างหลักฐานและยืนอยู่บนความไม่แน่นอน ผู้ที่ขาดวินัยทางการออม ตอดจนผู้ที่มีภาระมาก สำหรับผู้ที่มีสินทรัพย์เพียงพอสำหรับตัวเองและคนข้างหลัง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่มีความจำเป็นต้องทำประกันชีวิต เว้นแต่ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับภาษีมรดก ซึ่งในปัจจุบันในประเทศไทยยังไม่ต้องเสียภาษีดังกล่าว

การทำประกันชีวิตเพื่อการออม
ในภาวะปัจจุบันที่ดอกเบี้ยเงินฝากประจำลดต่ำลง การทำประกันชีวิตนับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการออมเงินที่น่าสนใจซึ่งผู้ออม สามารถเลือกวิธีการส่งเบี้ยประกันได้หลายวิธี หรือจะส่งก้อนเดียวเหมือนฝากเงินก็ได้ แต่ที่สำคัญควรทำความเข้าใจคุณสมบัติด้านการเงินของการประกันชีวิตให้ ละเอียด เพราะยังมีทางเลือกอื่นอีก เช่น การซื้อพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ หรือแม้แต่หุ้นกู้ ที่ให้ผลตอบแทนในอัตราที่สูงกว่า หรือถ้ามีเงินก็อาจซื้อคอนโดมิเนียมย่านใจกลางเมืองแล้วปล่อยให้เช่า เพื่อรอราคาสูงขึ้นในอนาคต หรืออาจลงทุนในหุ้นสามัญ ที่มีผลการดำเนินงานและจ่ายเงินปันผลสูง และไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์ต่างๆ ด้วย

ควรซื้อประกันชีวิตแบบไหน
สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ ประกันชีวิตแบบใดจึงจะมีจำนวนเพียงพอเหมาะสมกับความเสี่ยง และความต้องการใช้จ่ายในอนาคต ดังนั้นจึงควรศีกษาแบบประกันต่างๆ ก่อนลงมือทำประกันให้เหมาะสมกับความต้องการ เช่น หากกำลังสร้างตัว เป็นหัวหน้าครอบครัวซึ่งมีรายได้น้อยและมีภาระมาก อาจเือกซื้อประกันชีวิตแบบที่มีเบี้ยประกันต่ำ ระยะเวลาสั้น ความคุ้มกันสูง ถ้าเป็นผู้มีรายได้ประจำ มีสวัสดิการ และมีภาระน้อยก็เลือกแบบมีเงินออมพ่วงแต่ความคุ้มครองไม่มากนัก หากเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือทำงานที่ไม่มีสวัสดิการ ยามเจ็บป่วยอาจซื้อประกันสุขภาพพ่วง หรือหากมีความเสี่ยงต่อโรคภัยต่างๆ อาจซื้อประกันภัยโรคร้ายแรงพ่วง คำถามอีกอย่างคือ มีรายรับรายจ่ายเป็นอย่างไร สามารถส่งเบี้ยประกันได้แค่ไหนจึงไม่เดือดร้อน และไม่ทำให้เบี้ยประกันขาดจนตลอดอายุสัญญาหรือไม่สามารถส่งประกันได้ และอย่าลืมอ่านรายละเอียดของกรมธรรม์ประกันชีวิต เงื่อนไขต่างๆ ส่วนใหญ่จะเขียนตัวเล็กๆ อย่าละเลยหากสงสัยข้อความใดสอบถามข้อข้องใจกับตัวแทนประกันชีวิตทันที

ความมั่นคงของบริษัทประกันเป็นอย่างไร
การทำประกันชีวิตเป็นสัญญาระยะยาวของทั้ง 2 ฝ่าย บริษัทประกันอาจประสบปัญหาด้านการเงินระหว่างสัญญาได้ ผู้เอาประกันจึงควรพิจารณาถึงความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันด้วย โดยดูได้จากจำนวนสินทรัพย์ โครงสร้างผู้ถือหุ้น ชื่อเสียง หรือสัดส่วนทางการเงิน ความซื่อตรงของตัวแทนประกัน เพราะธุรกิจประกันชีวิตเป็นธุรกิจขายตรงที่อาศัยตัวแทนเป็นผู้ดูแลตอดอายุ กรมธรรม์ แต่หากตัวแทนไม่นำเงินไปจ่ายให้บริษัทประกัน บริษัทประกันจะไม่รับผิดชอบใดๆ และถือเสมือนว่าไม่ได้จ่ายเบี้ยประกัน ดังนั้นเวลาชำระค่าประกันควรชำระด้วยเช็คขีดคร่อม และขอใบเสร็จ หรือใบรับรองแทนใบเสร็จทุกครั้ง
source: ELLE THAILAND

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น