จะทำประกันชีวิตอย่างไร
ผุ้ที่จะทำประกันชีวิตจะต้องพิจารณาสิ่งต่อไปนี้
- มีส่วนได้เสีย การทำประกันชีวิตนอกจากจะซื้อให้ตนเองได้แล้ว ยังสามารถซื้อหรือทำประกันชีวิตให้กับบุคคลอื่นได้ด้วยการชำระเบี้ยประกันแทนให้ แต่การซื้อให้คนอื่นจะต้องมีส่วนได้เสียในชีวิตของบุคคลนั้น ส่วนได้เสียจะพิจารณาได้จากความสัมพันธ์ที่จะต้องอุปการะเลี้ยงดูกัน เช่น บิดามารดามีส่วนได้เสียในชีวิตของลูก จึงสามารถทำประกันชีวิตให้ลูกได้ สามีและภรรยามีส่วนได้เสียซึ่งกันและกัน จึงทำประกันชีวิตให้กันและกันได้ หรือส่วนได้เสียอาจพิจารณาความสัมพันธ์ทางธุรกิจ เช่น นายจ้างทำประกันชีวิตให้ลูกจ้างได้
- การเลือกซื้อแบบประกันชีวิต แบบประกันชีวิตมีมากมายหลายแบบ ซึ่งมีผลประโยชน์และเบี้ยประกันภัยแตกต่างกันมากมาย ดังนั้นการเลือกซื้อแบบประกันชีวิต ควรจะต้องพิจารณา
2.1 แบบการประกันชีวิต ที่ให้ความคุ้มครองและผลประโยชน์เหมาะสมกับความต้องการ
2.2 เบี้ยประกันภัยที่จะต้องจ่าย จะต้องเหมาะสมกับรายได้ ไม่สูงจนเกินความสามารถในการชำระเงินค่าเบี้ยประกันภัย จึงต้องพิจารณาถึงรายได้ส่วนหนึ่งที่จะต้องแบ่งมาเป็นค่าเบี้ยประกันภัยด้วย เพื่อให้สามารถจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันภัยอย่างต่อเนื่อง และตลอดไปได้ - การสมัครทำประกันชีวิต ผุ้ซื้อประกันชีวิตจะต้องกรอกข้อความในใบคำขอเอาประกันภัยซึ่งเกี่ยวกับอายุ อาชีพ ประวัติสุขภาพและอื่นๆ ด้วยตนเองและให้ตรงตามความเป็นจริงทุกประการ เพราะรายละเอียดต่างๆ จะถูกบริษัทนำมาใช้ประกอบการพิจารณาว่าจะรับประกันชีวิตหรือไม่ เพราะอายุ อาชีพ หรือโรคบางโรค บริษัทจะไม่รับประกัน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง อาชีพหรือโรคบางโรคอาจจะรับประกันได้ แต่จะต้องมีการคิดเบี้ยประกันภัยเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ และบริษัทสามารถบอกล้างกรมธรรม์ได้หากผู้เอาประกันภัยกรอกข้อความเท็จ การบอกล้างกรมธรรม์จะมีผลให้บริษัทไม่ต้องจ่ายจำนวนเงินเอาประกันชีวิต แต่จะคืนเฉพาะเบี้ยประกันชีวิตที่ได้ชำระไว้แล้วเท่านั้น
- อ่านกรมธรรม์ประกันชีวิตให้เข้าใจ เมื่อบริษัทตกลงรับประกันชีวิตแล้ว ก็จะมอบกรมธรรม์ให้ ผู้เอาประกันชีวิตควรอ่านข้อความในกรมธรรม์ให้เข้าใจ เพื่อจะได้ทราบสิทธิ์เงื่อนไขต่างๆ และควรตรวจดูว่า ชื่อผู้เอาประกันชีวิตชื่อผู้รับผลประโยชน์ จำนวนเงินเอาประกันชีวิต จำนวนเบี้ยประกันชีวิต แบบประกันชีวิต อายุผู้เอาประกันชีวิต ระยะเวลาประกันชีวิตและระยะเวลาชำระเบี้ยประกันชีวิต ถูกต้องตรงกับที่แจ้งไว้หรือไม่ ถ้าไม่ตรงก็ให้ทักท้วงและให้บริษัทแก้ไขให้ถูกต้อง
- การชำระเบี้ยประกันภัย กรมธรรม์โดยทั่วไปจะกำหนดว่า การประกันภัยจะยังไม่มีผลบังคับจนกว่าจะได้ชำระเบี้ยประกันภัยงวดแรกแล้ว ถ้าบริษัทประกันภัยได้ออกกรมธรรม์เมื่อได้รับเบี้ยประกันภัยงวดแรกแล้ว กรมธรรม์ย่อมมีผลบังคับสมบูรณ์ทุกประการ และส่วนใหญ่ผู้เอาประกันมักจะชำระเบี้ยประกันภัยงวดแรกพร้อมกับใบคำขอให้กับตัวแทน ฉะนั้นจึงควรเรียกใบเสร็จรับเงิน หรือใบรับเงินชั่วคราวจากตัวแทนประกันชีวิตผู้ได้รับมอบอำนาจจากบริษัทนี้เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นภายหลังว่าเงินเบี้ยประกันภัยไม่ถึงมือบริษัท
- การชำระเบี้ยประกันภัยเป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันชีวิต ผู้เอาประกันชีวิตจะต้องชำระเบี้ยประกันภัยงวดต่อๆ ไปก่อนวันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ การชำระเบี้ยประกันภัยล่าช้ากว่ากำหนดอาจจะทำให้กรมธรรม์ขาดผลบังคับได้ ดังนั้นถ้าตัวแทนประกันชีวิตไม่มาเก็บเบี้ยประกันภัยตามปกติ ผู้เอาประกันภัยจะต้องถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องชำระเบี้ยประกันภัยงวดต่อๆ ไปด้วยตนเอง โดยการหักบัญชีของธนาคารเอง หรือโดยอาจจะไปชำระที่สาขาบริษัท ด้วยตนเอง หรือส่งธนาณัติหรือสั่งจ่ายเป็นเช็คก็ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น