แบบประกันชีวิตมีให้เลือกกี่แบบ
ทุกวันนี้ กรมธรรม์ประกันชีวิตที่ถือว่าเป็นแบบมาตราฐานมีอยู่ 4 แบบคือ
แบบสะสมทรัพย์ คือ สัญญาประกันชีวิตที่บริษัทประกันชีวิตจะจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้ เอาประกันภัยใน 2 เงื่อนไขด้วยกันคือ เมื่อผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญา หรือเมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตในระยะเวลาเอาประกันภัยก่อนวันครบกำหนด สัญญา
ตัวอย่าง ผู้เอาประกันภัยซื้อประกันชีวิตเมื่ออายุ 40 ปี จำนวนเงินเอาประกันภัย 200,000 บาท กำหนดอายุสัญญา 20 ปี (กรมธรรม์สิ้นสุดเมื่อผู้เอาประกันภัยอายุ 60 ปี) ภายใต้เงื่อนไข หากผู้เอาประกันภัยมีอายุครบ 60 ปี บริษัทจะต้องจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยให้ผู้รับผลประโยชน์ จำนวน 200,000 บาท
แบบตลอดชีพ คือ สัญญาประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันภัยตลอดชีวิต โดยบริษัทประกันชีวิตจะต้องจ่ายเงินจำนวนเงินเอาประกันภัยให้แก่ ผู้รับประโยชน์เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต หรือในกรณีพิเศษที่ผู้เอาประกันภัยมีชีวิตยืนยาวจนถึง 99 ปี บริษัทประกันชีวิตจะต้องจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัย
แบบชั่วระยะเวลา คือ สัญญาประกันชีวิตที่บริษัทประกันชีวิตจะจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้ รับประโยชน์ เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตในระยะเวลาเอาประกันภัย เช่น ผู้เอาประกันภัยอายุ 40 ปี ทำประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา กำหนด 10 ปี ต่อมาปรากฎว่าผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตเมื่ออายุ 45 ปี ซึ่งยังอยู่ในอายุสัญญา บริษัทจะจ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ แต่หากผู้เอาประกันภัยมีอายุครบกำหนดสัญญาแล้ว ผู้เอาประกันภัยจะไม่ได้รับเงินคืนจากบริษัท
แบบเงินได้ประจำ คือ สัญญาประกันชีวิตที่ บริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินงวดเท่าๆ กันทุกเดือน ให้แก่ผู้เอาประกันภัยตลอดชีพ หรือในระยะเวลาที่กำหนดไว้ เช่น 10 ปี หรือ 20 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ผู้เอาประกันภัยเกษียณอายุ หรือตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย การที่ประกันชีวิตมีอยู่ด้วยกันมากมายหลายแบบ ทำให้บางแบบของการประกันชีวิต นอกจากจะให้ความคุ้มครองแล้ว ยังมีส่วนของการออมทรัพย์รวมอยู่ด้วย เช่น แบบตลอดชีพ และแบบสะสมทรัพย์ แต่ในการดำเนินงานของธุรกิจประกันชีวิตจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายด้วย จึงขออธิบายให้เห็นถึงค่าใช้จ่ายในส่วนของความคุ้มครอง และส่วนของการออมทรัพย์ดังนี้
การประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ 20/20 เป็นแบบที่มีการจ่ายเงินเอาประกันภัยกรณีเสียชีวิต หรือมีชีวิตอยู่รอดเมื่อกรมธรรม์ประกันภัยครบกำหนดสัญญา โดยมีระยะเวลาเอาประกันภัย 20 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย 20 ปี ผู้เอาประกันภัย อายุ 35 ปี เพศชาย จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท จำนวนเบี้ยประกันภัยที่ผู้เอาประกันภัยต้องชำระ 4,525 บาท จะ เห็นว่า แบบสะสมทรัพย์ 20/20 เบี้ยประกันภัยที่ผู้เอาประกันภัยชำระให้บริษัทจำนวน 4,525 บาท จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือส่วนของค่าใช้จ่าย 1,225 บาท คิดเป็นสัดส่วนเท่ากับ 27.07% ส่วนการคุ้มครอง 740 บาท คิดเ้ป็นสัดส่วนเท่ากับ 16.35% และส่วนของการออมทรัพย์ 2,560 บาท คิดเป็นสัดส่วนเท่ากับ 56.58%
ส่วนการประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ 21/21 เป็นแบบที่มีการจ่ายเงินเอาประกันภัยกรณีเสียชีวิต หรือมีชีวิตอยู่รอดเมื่อกรมธรรม์ประกันภัยครบกำหนดสัญญษ และมีการจ่ายเงินคืน 10% ทุก 3 ปี โดยมีระยะเวลา เอาประกันภัย 21 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย 21 ปี ผู้เอาประกันภัยอายุ 35 ปี เพศชาย จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท จำนวนเบี้ยประกันภัยที่ผู้เอาประกันภัยต้องชำระ 7,544 บาท จะ เห็นว่า แบบประกันสะสมทรัพย์ 21/21 เบี้ยประกันภัย ที่ผู้เอาประกันภัยชำระให้บริษัทจำนวน 7,544 บาทนั้น เป็นส่วนของค่าใช้จ่าย 1,707 บาท คิดเป็นสัดส่วนเท่ากับ 22.63% ส่วนของการคุ้มครอง 757 บาท คิดเป็นสัดส่วนเท่ากับ 10.03% และส่วนของการออมทรัพย์ 5,080 บาท คิดเป็นสัดส่วนเท่ากับ 67.34% สังเกต ได้ว่า หากแบบประกันชีวิตที่มีส่วนของการออมทรัพย์สูง เช่น แบบสะสมทรัพย์ 21/21 ส่งผลให้จำนวนเบี้ยประกันภัยสูงกว่าแบบสะสมทรัพย์ 20/20 ตามไปด้วย ซึ่งเป็นผลจากจำนวนเบี้ยประกันภัยที่จ่ายมีจำนวนที่มากกว่า จึงมีเงินเหลือเป็นเงินออมมากกว่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น