ข้อพึงทราบเกี่ยวกับความคุ้มครองการประกันภัยรถยนต์ ประเภท 2+ และ 3+
หลายคราวเมื่อเกิดเหตุแล้วมีข้อถกเถียงกันเรื่องความคุ้มครองของแผนประกันรถยนต์ประเภท 2+ และ 3+ จนบางครั้งทำให้ผู้เอาประกันภัยไม่พอใจบริษัทประกัน เนื่องจากการไม่ทราบเงื่นไขความคุ้มครองที่ชัดเจนบางเรื่อง ดังนี้
- รยยนต์คันเอาประกันจะต้องเสียหายจากการชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น (ยานพาหนะทางบก หมายถึง รถที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังเครื่องยนต์ หรือมอเตอรืไฟฟ้าเท่านั้น เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์)
- กรณีรถประกันเฉี่ยวชนกับยานพาหนะทางบกแล้วเสียหลักไปชนกับทรัพย์สินอย่างอื่น เช่น ต้นไม้ เกาะกลาง ฯลฯ กรมธรรม์จะให้ความคุ้มครองรถประกันเฉพาะความเสียหายที่ชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น ส่วนความเสียหายต่อเนื่องที่ชนกับทรัพย์สินอื่นใดผู้เอาประกันต้องรับผิดชอบเอง
- กรณีรถประกันถูกรถคู่กรณีปาดหน้า หรือหักหลบรถคู่กรณี แต่มิได้เฉี่ยวชนกัน ทำให้รถประกันเสียหลักตกข้างทาง หรือเฉี่ยวชนกับทรัพย์สินอื่นๆ ความเสียหายของรถประกันจากการเสียหลักตกข้างทาง หรือเฉี่ยวชนกับทรัพย์สินอื่นๆ กรมธรรม์ไม่คุ้มครอง
- กรณีรถประกันเฉี่ยวชนกับรถคู่กรณี และคู่กรณีหลบหนี ผู้เอาประกันจะต้องแจ้งรายละเอียดให้บริษัทฯ ทราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่ง เช่น ทะเบียนรถ (หมวดตัวอักษร หมายเลข และจังหวัด โดยต้องครบทุกตัวอักษร) และนำรายละเอียดคู่กรณีไปแจ้งความสถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ แต่หากต่อมาบริษัทฯ พิสูจน์ได้ว่า รถคู่กรณีคันดังกล่าวไม่ได้เกิดเหตุชนกับรถประกัน กรมธรรม์ไม่คุ้มครอง หรือหากมีการจ่ายค่าซ่อมไปแล้วผู้เอาประกันต้องคืนค่าซ่อมให้กับบริษัทฯ
- กรณีรถประกันเฉี่ยวชนกับรถคู่กรณี และผู้เอาประกันไม่สามารถแจ้งรายละเอียดรถคู่กรณี ให้บริษัท ทราบได้ กรมธรรม์ไม่คุ้มครองความเสียหายรถประกัน
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะทำประกันรถยนต์ประเภทไหนจงขับขี่อย่างมีสติ เมาไม่ขับ ง่วงให้พัก ขับไม่โทร
source: ไทยไพบูลย์ประกันภัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น