ประกันชีวิต ประกันความมั่นคงเพื่อครอบครัวในอนาคต

ประกันชีวิต ประกันความมั่นคงเพื่อครอบครัวในอนาคต

วันศุกร์

ปิดประตูความเสี่ยง กับการประกันสุขภาพ

หนึ่งในอาชีพที่คนร้องอี๋กันมากที่สุดคือ คนขายประกัน เพราะเมืองไทยได้รับการปลูกฝังเกี่ยวกับเรื่องการซื้อขายประกันชีวิต หรือประกันภัยต่างๆ มาแบบผิดๆ ผิดจนกลายเป็นวัฒนธรรมเลย อาจจะเพราะวิธีการขายที่ได้รับการฝึกสอนมาไม่ดี เลยทำให้ผู้คนเปรียบเทียบคนขายประกันไว้ว่าเหมือนแมลงสาบ

จริงๆ แล้วประกันภัย ไม่ว่าจะเป้นประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ ประกันเงินฝาก ผมว่ามีประโยชน์ทั้งนั้น แต่ด้วยภาพลักณ์คนขายประกันในเมืองไทย จึงทำให้คนไทยหนีการทำประกัน

ประโยชน์ของการทำประกันนั้นทำให้จัดผังพอร์ตชีวิตเราง่ายขึ้น เราไม่จำเป็นต้องกันเงินสดในส่วนของเงินฉุกเฉินเยอะ หากเรามีประกัน

บางคนสุดท้ายแล้วเงินที่อุตส่าห์หามาทั้งชีวิต หมดไปอย่างน้อยครึ่งหนึ่งกับค่ารักษาพยาบาล ซึ่งผมมองว่าเป็นค่าใช้จ่าย เอาเข้าจริงสิ่งนี้ไม่ควรจะมากระทบกับชีวิตของเราขนาดนั้น

ค่ารักษาพยาบาลนั้นไม่ใช่แค่กระทบกับตัวเรา แต่มักจะกระทบไปถึงคนใกล้ตัวที่เรารัก ผมมักจะเห็นภาพคนที่ต้องเสียเงินค่ารักษาพยาบาลจำนวนมากเพื่อรักษาคนที่พวกเค้ารัก ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วประกันสามารถช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้เยอะ แต่คนส่วนใหญ่มักจะไม่มีประกัน

ถามว่าคนส่วนมากเริ่มทำประกันสุขภาพกันตอนไหน? ก็ตอนที่เริ่มรู้ว่าตัวเองมีโรคแล้ว ซึ่งจริงๆ เป็นความคิดที่ผิดมาก เพราะเราควรทำประกันตั้งแต่เริ่มมีรายได้เท่าที่จะพอเจียดเงินออกมาได้ ไม่ใช่ทำตอนอายุเยอะหรือมีโรค เพราะเบี้ยมันจะแพง หรือไม่บริษัทก็ไม่รับทำประกันเลย

แต่ถ้าเราทำประกันตั้งแต่สุขภาพเรายังดีอยู่ และเลือกที่จะส่งเบี้ยประกันในระยะยาวหน่อย ผมว่ามันก็ไม่ได้มากระทบกระทั่งชีวิตเราขนาดนั้น

คนที่ทำธุรกิจก็เช่นกัน มันก็มีประกันอีกหลายประเภทที่สามารถรองรับความเสี่ยงในการทำธุรกิจของเราได้ อาจจะฟังแล้วแปลกๆ แต่ในเมืองนอกการทำประกันกับธุรกิจในเรื่องต่างๆ เป้นสิ่งสำคัญมาก เช่นประกันอักคีภัย หรือประกันร้านอาหาร

ชานน รุ่งเรืองไพฑูรย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น