ประกันสุขภาพ ถือเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ต้องลงทุน และพิจารณาว่าตนเองมีบริการด้านสุขภาพมากน้อยเพียงใด ไม่ว่าจะเป้นประกันสุขภาพที่ได้จากองค์กร หรือสวัสดิการในภาครัฐ กองทุนประกันสังคม ว่าให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายเพียงใดแล้วจึงค่อยเลือกซื้อเพิ่ม
ค่าห้องกับค่าพยาบาล เนื่องจากวิถีชีวิตของแต่ละคนแตกต่างกันไป บางคนอาจต้องการความเป็นส่วนตัว ต้องการความสะดวกสบายในทุกด้าน ขณะที่บางคนก็ไม่ได้เรื่องมาก สามารถนอนอยู่รวมกับคนอื่นๆ ได้ และค่าบริการต่างๆ ขณะที่ทำการรักษาตัวอยู่ก็ต้องมองให้ครบทุกด้านให้ตรงกับความต้องการ
การเลือกซื้อประกันสุขภาพ
1. ศึกษาแบบประกัน แบบนี้คุ้มครองอะไรบ้าง ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง จะครอบคลุมทันทีหรือต้องรอให้อยู่ในช่วงใดที่เรียกว่าระยะเวลารอคอย
2. ระยะเวลาประกัน ความคุ้มครองที่สามารถซื้อประกันสุขภาพได้เมื่ออายุมากขึ้นหรือไม่ เช่น บริษัทประกันส่วนใหญ่ ที่ขายประกันสุขภาพซื้อได้ถึงอายุ 60 ปี ถามว่าพออายุ 60 แล้ว ไม่สามารถซื้อประกันสุขภาพได้ และเมื่อไม่มีประกันสุขภาพ นึกดูให้ดีว่าตอนอายุ 60 ปีเนี่ย โรคภัยไข้เจ็บเป็นเพื่อนแท้กับวัยนี้เลย ค่าใช้จ่ายเรื่องสุขภาพจะมาอันดับที่หนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งในปัจจุบันมีประกันสุขภาพที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะให้เลือกอยู่มากมาย การหาประกันสุขภาพ ควรดูว่าบริษัทนั่นๆ คุ้มครองสุขภาพถึงอายุเท่าไร ?
3. การทำประกันสุขภาพที่มีประกันแบบผู้ป่วยนอก OPD ก็จะมีประโยชน์กว่า เพราะตามหลักจิตวิทยา คนเราส่วนใหญ่ไม่ค่อยอยากนอนโรงพยาบาล มองเผื่อไว้ก็ดี ปีนี้ไม่ได้ซื้อไว้ แต่คิดอีกนิด ถ้าแก่ๆ แล้วควรมีไว้เป็นทุนสำรองในอนาคตยามแก่เฒ่าต้องได้ใช้ ควรมีหลักประกันไว้เป้นทุนสำรองในอนาคตเพราะยิ่งอายุมากความเสี่ยงก็มากขึ้น
4. ตรวจสอบโรงพยาบาลที่เข้าร่วม แบบไม่ต้องสำรองจ่ายเงินสด เผื่อไว้กรณีฉุกเฉินเงินขาดมือเมื่อป่วยจะได้มีตัวช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้ ยิ่งมีรายชื่อโรงพยาบาลเข้าร่วมโครงการด้วยมากเพียงไร ก็หมายความว่าคุณจะมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น
5. ตรวจสอบเวลาการทำงานของฝ่ายพิจารณาสินไหมของ บริษัทประกัน ควรสอบถามเวลาการทำงานของแผนกพิจารณาสินไหม เพราะบางแห่งถ้าเราเข้าโรงพยาบาลแล้วจำเป็นต้องออกจากโรงพยาบาลตอนเย็นๆ ค่ำๆ บริษัทปิดรับ Fax Cliam ไปแล้วต้องรอวันทำการวันพรุ่งนี้ ควรเลือกบริษัทประกันสุขภาพที่มีบริการแฟกซ์เคลม (FAX CLAIM) ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
6. ควรศึกษาตารางผลประโยชน์ให้ดี ว่าซื้อค่าห้องเท่านี้ องค์ประกอบภายในได้เท่าไร ค่าหมอ ค่าผ่าตัด ค่าใช้จ่ายทั่วไป ว่าพอดีกับยุคเศรษฐกิจและความต้องการในปัจจุบันหรือไม่ เพราะถ้าหากซื้อไปแล้วเราต้องออกส่วนต่างอีกมากมายก็จะพาลเสียความรู้สึกว่า ซึ่งปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายค่าห้องของโรงพยาบาลสูงมาก บางโรงพยาบาลเป็นหลักหมื่นต่อวัน ให้เปรียบเทียบบริษัทประกันที่สามารถซื้อได้เผื่อถึงจุดนี้ เพราะต่อไปในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องค่าห้อง จะได้อุ่นใจได้ว่าบริษัทประกันสามารถรองรับได้
7. อย่าลืมศึกษา สอบถามตัวแทนว่า ถ้าต้องสำรองจ่ายไปแล้ว บริษัทจ่ายคืนเร็วหรือเปล่า ภายในกี่วัน
8. สิ่งสำคัญนอกจากรู้จักตัวแบบประกันสุขภาพแล้วอย่างลืมดูฐานะการเงินของบริษัทประกัน และดูบุคลิกภาพตัวแทนตลอดจนความรู้ความสามารถว่าจะสามารถบริการได้หรือเปล่า
เพียงเท่านี้คุณก็จะอุ่นใจได้ว่า สิ่งที่คุณตัดสินใจทำประกันแล้วไป คุ้มค่าจริงๆ …
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น